By New Theatre Society Reviewed by รายา รัตนพันธ์
พื้นที่การแสดงที่นั่งได้พอดีสามคนวางถาดน้ำชาตรงหน้าได้อีกคนละถาดในห้องที่ไม่ใหญ่ไปกว่าครึ่งของห้องเรียนปกติ สามพี่น้องนักเล่าเรื่องที่ป่าวประกาศกับเราแต่แรกเริ่มว่าคือ‘Three Brothers, The Greatest Storyteller of all Time!’ แสดงโดย เกรียงไกร ฟูเกษม,เศรษฐศิริ นิรันดร และ กวิน พิชิตกุลนำเราไปพบกับเรื่องเล่าการก่อตั้งโรงน้ำชาที่เกาะสวาทหาดสวรรค์บ้านเกิดของพวกได้อย่างสนุกสนานรื่นรวนใจ เราพากันระเบิดเสียงหัวเราะก้องพร้อมกันไปทั่วห้องพอๆกับที่นิ่งเงียบเงี่ยหูฟังในเสียงกระซิบกระซาบนั้น
เรื่องราวไม่มีความซับซ้อนใดๆ แต่การมานั่งฟังนั่งดูสามพี่น้องนักเล่าเรื่องผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล(เขาว่าอย่างนั้น) เล่ามันออกมานั้นมันสนุกมาก มันมีเพียงพวกเขาสามคนที่ปรากฏต่อสายตาเรา แต่การแสดงในพื้นที่เล็กๆอันจำกัดนั่น ได้พาการรับรู้ของเราไปไกลอย่างไม่มีขอบเขต เราได้ข้ามน้ำ ข้ามมหาสมุทร ไปถึงเกาะสวาทหาดสวรรค์บ้านเกิดของสามพี่น้องนักเล่าเรื่อง ได้พบกับทหารอเมริกันผู้เข้ามาครอบครองเกาะ ชาวเมืองขนานแท้แต่ดั้งเดิม ไล่ตั้งแต่เศรษฐีไปจนถึงคนยากไร้ หนุ่มสาวและคนแก่ และเกอิชา ผู้มาจุดประกายความคิดการสร้างโรงน้ำชาให้สว่างวาบในใจชาวเมือง
เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายเรื่องThe Teahouse of the August Moon ของ Vern Sneiderมันเคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว ปลายทางของทั้งนิยายและภาพยนตร์มีเหมือนกัน คือโรงน้ำชาถูกสร้างขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของชาวเมืองและผู้ปกครองใหม่
แต่ผู้กำกับปานรัตน กริชชาญชัยจาก Sliding Elbow Studioไปไกลกว่านั้น เรื่องราวมันไม่ได้จบลงที่โรงน้ำชาถูกสร้างขึ้น สิ่งที่เหมือนเป็นความฝันและความชัง(ใช่ว่าทุกคนจะอยากได้มัน)ของคนในขณะเดียวกันเมื่อมันมีขึ้นแล้ว มันเป็นอย่างไรต่อไป
และในเรื่องเล่าของสามพี่น้อง ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับแล้วจริงๆว่าพวกเขาสุดยอดก็พาเราไปพบกับตอนท้ายของเรื่องราวนี้ในทางที่เซอร์ไพรซ์ทีเดียว..เป็นความเซอไพรซ์ที่เรียบง่ายคงต้องบอกอย่างนี้
และแม้เราจะรับรู้มาอย่างเดียวกัน การเข้าใจของเราอาจจะตรงกัน แต่ความคิด อารมณ์ ความรู้สึกบางอย่างที่เป็นความเฉพาะนั้น คงทำให้เรามองและเล่าเรื่องนี้ต่างกันออกไป บางอย่างมันอาจตกหล่นหายไป หรือบางอย่างมันอาจถูกต่อเติม แปรเปลี่ยนตีความใหม่ ให้ความหมายเฉพาะตัวบางอย่างเพิ่มเข้ามา เช่นเดียวกับการเล่าเรื่องโรงน้ำชาแห่งเกาะสวาทหาดสวรรค์จากสามพี่น้องนักเล่าเรื่องนี้
โรงน้ำชานี้จะเปิดไปจนถึงวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ที่ Sliding Elbow Studio (ซอยเพชรบุรี47 แยก2)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ คลิกที่นี่ ฝากมาแจ้งด้วยอีกว่ารอบละ 25 ที่เท่านั้น!
มันควรค่าแก่การฟังและหัวเราะสักครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ